AnyMind Group, บริษัทที่เปิดทำธุรกิจแบบครบวงจร (End-to-end Commerce Enablement Company) ได้เผยแพร่รายงานประจำปีฉบับที่สามเกี่ยวกับการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ในเอเชีย ด้วยข้อมูลที่ได้รับจากแพลตฟอร์มการทำการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์อย่าง AnyTag รายงาน State of Influence in Asia 22/23 จะวิเคราะห์ข้อมูลจากอินฟลูเอนเซอร์กว่า 500,000 รายและแคมเปญการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ทั้งหมด 4,000 แคมเปญใน 10 ประเทศทั่วเอเชีย ได้แก่ กัมพูชา ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม
รายงานประจำปีฉบับที่สามนี้เราพบข้อมูลใหม่ตั้งแต่ข้อมูลที่เกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์และแคมเปญจาก TikTok อุตสาหกรรมแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ที่สร้างแคมเปญการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ การลงรายละเอียดด้านการทำการตลาดของทั้ง 10 ประเทศอย่างครอบคลุม และแบรนด์ที่อินฟลูเอนเซอร์กล่าวถึงมากที่สุด (ทั้งแบบออร์แกนิกและแบรนด์จ้าง) บน Instagram
สำหรับประเทศไทย เทรนด์การใช้อินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดียสำหรับทำการตลาดนั้นค่อนข้างน่าสนใจ เราได้ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการใช้งานโซเชียลมีเดียที่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ คือในประเทศไทย Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและแบรนด์ก็นิยมทำการตลาดบนแพลตฟอร์มนี้มากที่สุดถึง 35.3% แต่อัตราการมีส่วนร่วมในเนื้อหาที่อินฟลูเอนเซอร์สร้างขึ้นนั้นต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ และเนื้อหาที่เป็นที่นิยมมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ แฟชั่นและความงาม (25.23%) ความบันเทิงและงานอดิเรก (24.10%) และสุดท้ายคืออาหาร (11.20%)
ส่วน TikTok ที่กำลังมาแรงนั้น เราก็ได้เห็นความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ทั้งด้านการใช้งานบนแพลตฟอร์มและอัตราการมีส่วนร่วมในเนื้อหาต่าง ๆ ซึ่งหากคิดเป็นเปอร์เซนต์จะอยู่ที่ 14.6% TikTok จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับแบรนด์หรือนักการตลาดที่ต้องการเน้นเรื่องอัตราการมีส่วนร่วมบนเนื้อหาให้มาเลือกใช้ทำการตลาดได้เช่นกัน และในอนาคตเราอาจได้เห็นการแข่งขันด้านการพัฒนาตัวแพลตฟอร์มระหว่าง TikTok และ Instagram เนื่องจากความนิยมที่ค่อนข้างสูสีกันอย่างมากในประเทศไทยนี้
ปีนี้เป็นปีแรกที่รายงาน State of Influence in Asia 22/23 มีข้อมูลเกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์และแคมเปญบน TikTok โดยเราสามารถเห็นความนิยมของแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับการทำการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ได้จากสัดส่วนการเติบโตของแคมเปญในช่วงเวลาที่วิเคราะห์ ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2564 ถึงพฤศจิกายน พ.ศ.2564 ซึ่งสัดส่วนเฉลี่ยของแคมเปญที่ทำงานบน TikTok เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อยู่ที่ 17.67% ในขณะที่ช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ.2565 ถึงสิงหาคม พ.ศ.2565 TikTok มีสัดส่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 24.34% นอกจากนี้ TikTok ยังเป็นผู้นำด้านอัตราการมีส่วนร่วมเฉลี่ยเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมอื่น ๆ ในทุกประเทศที่มีให้บริการ ยกเว้นในอินโดนีเซียที่ Instagram เป็นผู้นำด้านอัตราการมีส่วนร่วมเฉลี่ยนอกเหนือจากอินฟลูเอนเซอร์ระดับแมคโคร (อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่ 100,000 ถึง 1 ล้านคน)
ในปีที่ผ่านมา Shopee เป็นแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด (137,800 ครั้ง) จากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ทั่วเอเชียบน Instagram ทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ รองลงมา คือ LINE (96,910 ครั้ง) TikTok (88,931 ครั้ง) Lazada (59,995 ครั้ง) และ Canon (45,307 ครั้ง) ตามลำดับ
ด้านอุตสาหกรรมชั้นนำในเอเชียปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจที่มีการใช้แคมเปญการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ ได้แก่ แบรนด์แฟชั่นและความงาม (29.66% ของแคมเปญทั้งหมด) อาหารและเครื่องดื่ม (26.24% ของแคมเปญทั้งหมด) ครอบครัวและการศึกษา (12.80% ของแคมเปญทั้งหมด) ไลฟ์สไตล์และบ้าน (11.06% ของแคมเปญทั้งหมด) ความบันเทิงและงานอดิเรก (6.16% ของแคมเปญทั้งหมด)
ในการเปิดตัวรายงานนี้ Kosuke Sogo, CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง AnyMind Group กล่าวว่า “การตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ในเอเชียได้มาถึงจุดตัดของการเปลี่ยนแปลงแล้ว และเราเชื่อว่าอนาคตของพื้นที่นี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดพร้อมกับอัพเดตวิธีการต่าง ๆ ของการทำธุรกิจออนไลน์ ให้ความสามารถในการติดตาม การระบุแหล่งที่มา และความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นสำหรับนักการตลาด การมีเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึกที่เหมาะสมจะช่วยให้นักการตลาดและธุรกิจมีแรงผลักดันในการเร่งเข้าสู่ยุคใหม่ของการค้าขายแบบไร้พรมแดนและเปิดกว้างได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การรวมการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์เข้ากับห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจ ไปจนถึงการจัดหาผู้สร้างสรรค์เนื้อหาที่มีความสามารถในการเริ่มต้นแบรนด์ของตนเองโดยตรงต่อผู้บริโภค เรากำลังพัฒนาการค้ายุคหน้าในเอเชียไปสู่ทั่วโลก”