เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา AnyMind Group ประเทศไทยร่วมกับสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) จัด งานเปิดบ้านให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซผ่านหัวข้อ “Influencer Marketing และ Owned Media จาก Upper Funnel สู่ Lower Funnel ในโลกอีคอมเมิร์ซ”
คุณศิวัฒน์ วิลาสศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการ AnyMind Group ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ได้กล่าวเปิดงานและให้ความรู้เกี่ยวกับการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่และกลยุทธ์ทางการตลาดเข้าด้วยกัน รวมทั้งแนะนำภาพรวมและแพลตฟอร์มให้บริการของ AnyMind Group
ภายในงานเต็มไปด้วยความรู้และความสนุกสนาน ที่ทางทีม AnyMind ยังได้จัดเวิร์กช็อป LIVE โดยมีการจำลองสตูดิโอลฟ์สดแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นกล้อง ไฟ ฉากสีเขียว (Green Screen) รวมถึงแอนิเมชั่นที่ใช้ในไลฟ์
ในส่วนของคลังความรู้ เรามีตัวแทนจาก AnyMind Group 3 ท่านได้แก่ คุณเชอร์รี่ – อุมามณฑ์ ศิริลักษณาพร (Vice President of Influencer Marketing, Thailand) คุณเกมส์ – กรกานต์ แย้มสัตย์ธรรม (Deputy Head of D2C-EC Enablement and Affiliate Business, Thailand) และ คุณบู – ศุภกานต์ เกตุชู (Deputy Head of POKKT, Thailand) โดยมีสรุปสาระสำคัญในงาน ดังนี้
เทรนด์อินฟลูเอนเซอร์ในปี 2024 : สร้างแคมเปญทางการตลาดผู้ใช้จริง
คุณเชอร์รี่ – อุมามณฑ์ ศิริลักษณาพร Vice President of Influencer Marketing สมัยก่อน เราจะนิยมจ้างดาราที่เป็นที่รู้จักหรือมียอดผู้ติดตามมาก เพื่อให้พวกเขาสื่อสารแบรนด์ออกไปในวงกว้าง แต่ในปัจจุบันกลยุทธ์และเทรนด์การตลาดเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค เราอยู่ในยุคที่ลูกค้าหรือผู้บริโภคเสพความตรงไปตรงมา(Authenticity) ดังนั้นธุรกิจควรสร้างแคมเปญทางการตลาดผู้ใช้จริง หรือที่เราเรียกว่า “User-Generated Content” หรือ “UGC” เพื่อสร้างสะพานเชื่อมโยงให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งคุณเชอร์รี่ได้นำเสนอ 3 ปัจจัยหลักสำหรับแบรนด์และสินค้าในการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ไว้ ดังนี้
Reachหมายถึง ความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เป็นการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เพื่อให้แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
Resonance หมายถึง ความสอดคล้องและการสร้างความประทับใจ ในกลุ่มเป้าหมายเป็นการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม และสามารถดึงดูความสนใจหรือโน้มน้าวให้ซื้อสินค้าหรือบริการตามได้
Relevance หมายถึง ความสอดคล้องระหว่างอินฟลูเอนเซอร์กับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ เป็นการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ โดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์หรือแนวทางการทำคอนเทนต์ที่จำเป็นต้องสื่อสารไปในทิศทางเดียวกับแบรนด์
ดังนั้น ธุรกิจจึงควรชั่งน้ำหนักทั้ง 3 ปัจจัยข้างต้นโดยคำนึงถึงตำแหน่งทางการตลาด (Brand positioning) เอกลักษณ์ของแบรนด์ (Brand identity) และการเจาะกลุ่มลูกค้าให้ตรงเป้าหมาย (Customer targeting)
เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นผู้ใช้งานจริง ตรงกลุ่มเป้าหมาย สื่อสารแบรนด์อย่างตรงไปตรงมา เน้นความเป็นธรรมชาติ
“Authenticity” “ความเรียล” “ความเป็นธรรมชาติ” หรือ “ความตรงไปตรงมา” ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ ช่วยให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเอง ความสอดคล้องของการใช้ชีวิต หรือแม้กระทั่งมี Pain Point ที่ตรงกัน และทำให้แบรนด์เข้าถึงง่าย
เลือกอินฟลูเอนเซอร์โดยเจาะตลาดตามภูมิภาค จังหวัด หรือ ท้องถิ่น
หลายคนอาจจะเคยเห็นสื่อโฆษณาที่บอกเล่าเรื่องราวของสินค้าโดยใช้ภาษาท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น ภาษาเหนือ ภาษาใต้ และภาษาอีสาน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดายและเฉพาะเจาะจง ในแต่ละภูมิภาคนั่นเอง
เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงจุดโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
AnyMind Group มีแพลตฟอร์มทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ “AnyTag” ที่รวบรวมเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ จากโลก ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีมาช่วยเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับแคมเปญการตลาดและกลุ่มเป้าหมาย มีแดชบอร์ดที่แสดงโปรไฟล์ของอินฟลูเอนเซอร์และรายงานผลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้แบรนด์ค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ได้อย่างรวดเร็วย่นระยะเวลาในการทำงานและมีเวลาไปโฟกัส กับกลยุทธ์ทางการตลาดในด้านอื่น ๆ
กลยุทธ์ทางการตลาดแบบ E-Selling Opinion Leaders สำหรับธุจกิจอีคอมเมิร์ซ
ในยุคที่นวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจำเป็นต้องอัปเดตกลยุทธ์การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณเกมส์ – กรกานต์ แย้มสัตย์ธรรม Deputy Head of D2C-EC Enablement and Affiliate Business ได้เปรียบเทียบการทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ในแววงอีคอมเมิร์ซตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
สมัยก่อนธุรกิจและนักการตลาดสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์โดยการใช้คนดังมารีวิวสินค้า ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะเป็นผู้ใช้งานจริงหรือไม่ก็ตาม ในเวลาต่อมากลยุทธ์ทางการตลาดก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป เป็นยุคทองของ Micro-Nano / KOCs – KOLs โดยจะเน้นไปที่การแชร์ความคิดเห็นต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและกระตุ้นการขาย
ในปี 2566 E-Selling Opinion Leaders (eSOLs) เข้ามามีบทบาท โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม ขายของออนไลน์ที่มาแรงอย่าง TikTok Shop ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นกับสินค้า พร้อมทำ Affiliate ติดตะกร้าขายสินค้าเหล่านั้นได้อีกด้วย และในปี 2567 นี้ เป็นปีของการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ประโยชน์ในด้านอีคอมเมิร์ซเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
การใช้เทคโนโลยี Deepfake และอินฟลูเอนเซอร์เอไอ
คุณเกมส์ได้ยกตัวอย่างการนำเทคโนยี Deepfake หรืออินฟลูเอนเซอร์เอไอที่ถูกนำมาใช้ขายสินค้าผ่าน Live Commerce โดยใช้เอไอและ Machine Learning ในการสร้างหรือเปลี่ยนแปลงสื่อดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น วิดีโอ ภาพถ่าย หรือเสียงเพื่อให้ดูเหมือนจริง
แบรนด์สามารถใช้เทคโนโลยีที่กล่าวไปข้างต้นสร้างแคมเปญโฆษณาที่น่าสนใจและดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในวงการ Live Commerce แบรนด์สามารถขายของผ่านไลฟ์สดได้ 24 ชั่วโมง พ่อค้าแม่ค้าไม่จำเป็นต้องยืนไลฟ์ตลอดเวลาหรือผลัดเวรกันมาไลฟ์อีกต่อไป
การมีช่องทางการขายที่หลากหลาย
ทุกวันนี้หลายแบรนด์ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการมีช่องทางการขายสินค้าที่หลากหลาย ทั้ง Social commerce, Marketplace และ Website
คุณเกมส์ได้นำข้อมูลอ้างอิงจาก Priceza, Meta & Bain and Company ในงาน SYNC Southeast Asia 2022 โดยระบุไว้ว่า ในปีนี้การขายสินค้าผ่าน Social commerce ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชากรมากกว่า 73% ของประเทศใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Line, TikTok Shop, Facebook และ Instagram นอกจากนี้ ยังคาดว่าจำนวนผู้ใช้งานอีคอมเมิร์ซในประเทศจะเพิ่มขึ้นถึง 43.5 ล้านคนภายในปี 2568
ข้อมูลการจ่ายเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ ในปี 2565 ระบุว่า แบรนด์ต่าง ๆ ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ใช้ช่องทางการขายดังนี้: 51% ผ่าน Marketplace, 22% ผ่าน Social Commerce, 17% ผ่านเว็บไซต์, และ 11% ผ่าน Food Delivery
ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลมาจากการมีช่องทางที่หลากหลายในการขายสินค้า
การทำตลาดผ่าน TikTok Shop
TikTok Shop มีฟีเจอร์สำหรับการขายสินค้าหลัก ๆ 4 รูปแบบ ดังนี้:
Live shopping:
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้แบรนด์สามารถไลฟ์สดเพื่อขายสินค้าได้โดยตรง ทำให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ใกล้ชิดกับสินค้าและการใช้งานจริงของสินค้า ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มมูลค่าการซื้อขายของแบรนด์
Product showcase:
ฟีเจอร์ทำหน้าที่เหมือนตู้โชว์สินค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย ผู้ใช้งานหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสามารถกดสั่งซื้อสินค้าได้ทันที
Video shopping:
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้แบรนด์ อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ใช้งานจริง สามารถแนบตะกร้าสินค้ากับวิดีโอ ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้โดยตรงผ่านทางวิดีโอที่คุณแชร์
Shopping center:
การเข้าร่วม Flash Sale หรือแคมเปญบนแพลตฟอร์มจะช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์
คอนเทนต์ Affiliate บน TikTok Shop แบ่งตาม 3 จุดประสงค์ดังต่อไปนี้
Awareness: เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ผ่าน Affiliate โดย KOLs และ User Generated Content (UGC) ทำให้เกิดไวรัลและการบอกต่อ
Consideration: เพื่อนำเสนอแบรนด์และผลิตภัณฑ์และเจาะลึก Pain Point ของลูกค้า
Conversion: เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและเพิ่มยอดขาย โดยสื่อสารผ่านวิดีโอสั้นและ Live Commerce
สร้างคอนเทนต์อย่างไรให้น่าสนใจบน TikTok Shop?
คุณเกมส์ได้บอกทริคเพื่อดึงดูดผู้ชมและเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพไว้ 6 ข้อ ดังนี้
1. เข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง: ศึกษาพฤติกรรมการใช้งานและความชอบของพวกเขา เพื่อสร้างเนื้อหาที่เข้าถึงและเป็นกลางในใจของกลุ่มเป้าหมาย
2. เป็นตัวของตัวเองและมีเอกลักษณ์: จงทำให้เนื้อหาของคุณมีความเป็นตัวเองและเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว เน้นที่คุณค่าและสิ่งที่ทำให้แตกต่างจากผู้อื่น
3. ใช้เอฟเฟกต์ภาพและเสียง: การใช้เอฟเฟกต์ที่น่าสนใจในภาพและเสียงจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและความน่าจดจำในเนื้อหาของคุณ
4. มี Call to Action ที่ชัดเจนและดึงดูด: แนะนำให้ใส่ข้อเรียกร้องที่ชัดเจนเพื่อเรียกให้ผู้ชมดำเนินการตามคำแนะนำ เช่น เชิญชวนให้คลิกลิงก์ แชร์เนื้อหา หรือซื้อสินค้า
5. ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์: การร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังหรือผู้ที่มีผลกระทบในวงการอาจช่วยเพิ่มความเชื่อถือและการยอมรับของแบรนด์
6. วิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง: ทำการวิเคราะห์ผลและปรับปรุงเนื้อหาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณอย่างต่อเนื่อง
การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจบน TikTok
– คุณจำเป็นต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง
– เป็นตัวของตัวเอง เน้นความเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงสอดของกับการสื่อสารของเเบรนด์
– ใช้เอฟเฟกต์ภาพและเสียง
– มี Call to Action ที่ชัดเจนและดึงดูด
– ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์
– วิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
การติดตามประสิทธิภาพ
– ค้นหาผู้สร้างเนื้อหาที่สามารถสร้างยอดขายสูงสุด
– วิเคราะห์กลุ่ม Fan Base หรือฐานผู้ชมและเนื้อหาที่มีส่วนช่วยในการขาย
– จับคู่โปรโมชั่นหรือสินค้าที่เหมาะสมกับอินฟลูเอนเซอร์
การไลฟ์ขายของในยุคปัจจุบัน
Traffic: การโปรโมตก่อนการไลฟ์ ทั้งในและนอกแอปเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า
Host: เลือกโฮสต์ที่ตรงกับแบรนด์และสินค้า มีทักษะการขายและการมีส่วนร่วมสูง
SKU: จัดการสินค้าที่จะขาย เช่น Flash Sale สินค้าขายดี สินค้าใหม่ และสินค้าที่มีกำไรสูง
การใช้ Live Commerce อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ติดตามและการขาย ควรมีการไลฟ์อย่างน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ และตั้งค่าโปรโมชั่นและ Flash Sale เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการติดตามไลฟ์
การเตรียมพร้อมก่อนการไลฟ์ เช่น การจัดการทรัพยากรมนุษย์ การเตรียมสินค้าและโปรโมชั่น การจัดสตูดิโอ และการโปรโมตผ่านแพลตฟอร์มนอกแอปจะช่วยให้การไลฟ์เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
สรุปแล้วการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกลยุทธ์ทางการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์จะช่วยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างมีประสิทธิผล
POKKT Mobile Ads แพลตฟอร์มโฆษณาบนแอปพลิเคชั่นมือถือของ AnyMind Group
เคยไหมที่กำลังเล่นเกมอยู่แล้วมีโฆษณาเด้งขึ้นมาให้กดรับชมเพื่อแลกเงินในเกม นี่คือหนึ่งในกลยุทธ์ การสื่อสารที่ช่วยให้แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์กลายเป็นที่รู้จัก สร้างการจดจำ หรือดึงดูดความสนใจของคุณในขณะที่เล่นเกม
คุณบู – ศุภกานต์ เกตุชู -Deputy Head of POKKT – Thailand ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำโฆษณา ผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือโดยแนะนำ POKKT Mobile Ads แพลตฟอร์มโฆษณาบนแอปมือถือของ AnyMind Group ซึ่งเป็นผู้นำในการควบคุมตลาดโฆษณาผ่านแอปพลิเคชัน
POKKT Mobile Ads เป็นแพลตฟอร์มโฆษณาบนแอปพลิเคชั่นมือถือของ AnyMind Group ที่มีเครือข่ายหลากหลาย ทั้งเกมและแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เกม ซึ่งให้บริการที่ครอบคลุมการสร้างแบรนด์และการตลาด เน้นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในโลกดิจิทัล มีความเชี่ยวชาญในการสร้าง และวางแผนการจัดวางโฆษณาในรูปแบบวิดีโอผ่านเกมและแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ สร้างการรับรู้ พาแบรนด์และสินค้าไปสู่สายตาของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในช่องทางที่เข้าถึงได้ในชีวิตประจำวัน
งานเปิดบ้านของ AnyMind Group ประเทศไทยร่วมกับสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตลาดเชิงกลยุทธ์แบบ Full-Funnel สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซเมื่อโลกนี้ไม่มีคุกกี้อีกต่อไป (The Cookieless World) โดยเน้นที่ความตรงไปตรงมา การใช้เทคโนโลยีอย่าง Deepfake ในการไลฟ์ขายสินค้า และการสร้างเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มอีเคอมเมิร์ซ รวมถึงการโฆษณาผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือด้วย POKKT Mobile Ads งานนี้ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยี และกลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ไปปรับใช้และต่อยอดเพื่อพัฒนาธุรกิจในโลกอีคอมเมิร์ซที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
