< script src="https://unpkg.com/@highlightjs/cdn-assets@11.0.0/highlight.min.js">

Blog

Facebook Icon Twitter Icon Linkedin Icon

Digital Marketing

Facebook Icon Twitter Icon Linkedin Icon

พลิกโฉมการตลาดดิจิทัล สร้างการมองเห็นให้กับแบรนด์ด้วย APM และ POKKT โซลูชั่นโฆษณาบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นจาก AnyMind Group

หนึ่งในหลักการสำคัญของการให้บริการธุรกิจด้วย BPaaS คือการมอบเทคโนโลยีที่สามารถ สนับสนุนและตอบโจทย์การดำเนินงานของธุรกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ AnyMind Group มีสาระดี ๆ เกี่ยวกับการทำการตลาดผ่านเว็บไซต์และเเอปพลิเคชั่นบนมือถือมาฝาก

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกแพลตฟอร์ม AnyDigital Premium Marketplace (APM) และ POKKT ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้กับคนทำแบรนด์ นักการตลาด หรือ ผู้ที่ทำหน้าที่ลงโฆษณา โดยกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำ วางตำแหน่งโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมนั่นเอง

หากพร้อมแล้ว ไปลุยกันเลย

ทำความรู้จัก AnyDigital Premium Marketplace (APM)

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับแพลตฟอร์ม AnyDigital Premium Marketplace หรือ APM ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถจองตำแหน่งโฆษณาบนเว็บไซต์และแอปฯ มือถือที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสื่อกลางในการสื่อสารแบรนด์ สินค้าหรือบริการชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) โดยให้การเข้าถึงเว็บไซต์และสื่อกลางหลากหลายประเภท

แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสื่อสารไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมายผ่านแอปฯ มือถือ สื่อกลางระดับสูง (High-tier publishers) ที่มีมูลค่าสูงและมีชื่อเสียงมักเป็นเว็บไซต์ข่าวขนาดใหญ่ ส่วนสื่อกลางระดับกลาง (Mid-high-tier publishers) เหมาะสำหรับเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น บริการ APM ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาและธุรกิจมั่นใจได้ว่าการเข้าชมโฆษณาจะปลอดภัยจากการหลอกลวง และงบโฆษณา ของคุณจะถูกใช้ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ ทีมงานของเรายังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้คุณบรรลุเป้าหมายและผลลัพธ์ของแคมเปญที่ตั้งไว้โดยการปรับกลยุทธ์และตรวจสอบผลลัพธ์อย่างละเอียดเพื่อให้แคมเปญของคุณโดดเด่นและสามารถแข่งขันในตลาดได้

ฟีเจอร์หลักของ APM

เป็นคุณสมบัติที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยแต่ละฟีเจอร์มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา ดังนี้:

Fixed-rate model: ฟีเจอร์นี้เป็นรูปแบบการคิดราคาที่คงที่ ไม่ขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงในตลาด ซึ่งผู้ลงโฆษณาสามารถคาดการณ์และควบคุมงบประมาณของแคมเปญได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ เมื่อแคมเปญทำงานได้ดีและสามารถบรรลุ KPI (Key Performance Indicators) ที่สูงขึ้นได้ ระบบจะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถใช้จ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญได้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้ ROI (Return on Investment) สูงสุด

Premium inventory: ฟีเจอร์นี้รับประกันการจัดตำแหน่งโฆษณาที่มีประสิทธิภาพบนเว็บไซต์ในเครือข่ายของ APM ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ตำแหน่งเหล่านี้ เป็นพื้นที่โฆษณาที่มีคุณภาพสูง ซึ่งดึงดูดการเข้าชมจากผู้ชมได้มากและแม่นยำ ทำให้การโฆษณาในตำแหน่งนี้มีประสิทธิภาพ และสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

Innovative ad formats: ฟีเจอร์นี้นำเสนอรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โฆษณาแบบแสดงผล (Display Ads) วิดีโอ (Video Ads) หรือสื่อโฆษณาระดับสูง (Rich Media Ads) รูปแบบเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์เฉพาะของแคมเปญ เช่น การกระตุ้นให้เกิดการแปลง (Conversion) การเล่นเกม (Gamification) การมองเห็นโฆษณา (Viewability) และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้แคมเปญของผู้ลงโฆษณาบรรลุเป้าหมาย

แต่ละฟีเจอร์เหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าแคมเปญของผู้ลงโฆษณาและแบรนด์จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ด้วยการใช้ทรัพยากรและงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในแพลตฟอร์ม APM

APM สนับสนุนนักลงโฆษณา นักการตลาด และธุรกิจด้านใดบ้าง?

สื่อโฆษณาพรีเมียม: APM ให้การเข้าถึงเครือข่ายของผู้เผยแพร่โฆษณาระดับพรีเมียมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ซึ่ง AnyMind ให้การสนับสนุนการเติบโต ของเครือข่ายเหล่านี้ผ่าน แพลตฟอร์ม AnyManager และหน่วยธุรกิจ Publisher Growth

เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย: APM จะกำหนดกลุ่มเป้าหมายขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาโฆษณาได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานเว็บไซต์ โดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด

ช่วยประมาณการค่าใช้จ่ายของแคมเปญโฆษณา: APM ช่วยให้สามารถคาดการณ์ค่าใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ ทำให้ธุรกิจสามารถจัดทำงบประมาณและวางแผนแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับผลลัพธ์และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญ ค่าใช้จ่ายในการทำ แคมเปญโฆษณาประกอบด้วย…

  • CPV (Cost Per View): ค่าใช้จ่ายต่อการรับชม ซึ่งคำนวณตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้รับชมวิดีโอหรือโฆษณา
  • CPC (Cost Per Click): ค่าใช้จ่ายต่อการคลิก ซึ่งคำนวณตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกที่โฆษณา
  • CPM (Cost Per Mille): ค่าใช้จ่ายต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง ซึ่งคำนวณตามจำนวนครั้งที่โฆษณาแสดงผล 1,000 ครั้ง

วิเคราะห์และรายงานผลอย่างครอบคลุมแบบเรียลไทม์: เครื่องมือวิเคราะห์และรายงานผลของ APM ให้ข้อมูลเชิงลึก วัดประสิทธิภาพของแคมเปญตามเวลาจริง ผู้ลงโฆษณาและแบรนด์ สามารถตัดสินใจ ปรับกลยุทธ์ และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

เพิ่มการมองเห็นให้กับโฆษณา: ในการเลือกตำแหน่งของโฆษณา ทีมงาน APM จะให้มุ่งเน้นไปที่ ตำแหน่งโฆษณาที่มีอัตราการมองเห็นสูง ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและ Coversion Rate

ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งานเว็บไซต์: APM ใช้รูปแบบโฆษณาที่ไม่รบกวนเว็บไซต์ และผู้ใช้งาน โดยเนื้อหาแคมเปญ และเว็บไซต์ที่คัดสรรมามีความสอดคล้องกันอย่างลงตัว ทำให้ผู้ใช้รู้สึกดีต่อแบรนด์

มีค่าใช้จ่ายที่ยืดหยุ่น: ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายต่อการรับชม (CPV) ค่าใช้จ่ายต่อการคลิก (CPC) และค่าใช้จ่ายต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง (CPM) ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการ และวัตถุ ประสงค์ที่หลากหลายของการโฆษณา ซึ่งช่วยให้ผู้ลงโฆษณาและแบรนด์สามารถเลือกใช้รูปแบบที่สอดคล้องกับเป้าหมายและงบประมาณของตนได้ดีที่สุด

ด้วยชุดฟีเจอร์ที่ครบเครื่องของ APM ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาและแบรนด์สามารถสร้างแคมเปญการตลาดดิจิทัลที่มีได้ประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเพิ่มการรับรู้ การมีส่วนร่วม สร้างรายได้ และต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

รูปแบบโฆษณาของ APM

APM มีรูปแบบโฆษณาให้เลือกมากมาย จะมีรูปแบบไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย!

APM ADS Formats

ตำแหน่งของโฆษณา APM

พื้นที่โฆษณาของ APM ถูกวางอย่างมีกลยุทธ์เพื่อเพิ่มการมองเห็นและและการมีส่วนร่วมบนเว็บไซต์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ตำแหน่ง ดังนี้

เว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลชั้นนำ:ทีมงาน APM ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มียอดการเข้าชมสูง โดยโฆษณาจะปรากฏบนเว็บไซต์ระดับพรีเมียมที่มีเนื้อหาคุณภาพสูงและมีผู้ชมเข้ามาส่วนร่วมจำนวนมาก การวางตำแหน่งโฆษณาในลักษณะนี้ ช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับแบรนด์ และทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณา

การวางตำแหน่งภายในบทความ: เป็นการแทรกโฆษณาไว้ในบทความ ในขณะที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์กำลังอ่านบทความก็จะเห็นโฆษณา แต่เนื้อหาโฆษณาบทความ และเว็บไซต์จำเป็นต้องสอดคล้องกัน

การจัดการโฆษณาผ่านเว็บไซต์ของ APM ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาด โดยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ การมีส่วนร่วม และการแปลงผลลัพธ์ในแพลตฟอร์มดิจิทัล

มาทำความรู้จักกับ POKKT อีกหนึ่งแพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัลของ AnyMind ที่มุ่งเน้นการจัดการโฆษณาบนแอปพลิเคชั่นมือถือ รวมถึงรูปแบบต่าง ๆ และประโยชน์ที่มีต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน

POKKT: ผู้นำด้านการทำโฆษณาบนแอปฯ เกมและแอปฯ มือถือ

ข้อมูลจาก Market Data Forecast และ Expert Market Research รายงานว่า ตลาดแอปพลิเคชั่นมือถือทั่วโลกจะเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปี พ.ศ. 2567 ถึง 2572 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีเฉลี่ย (CAGR) ที่ 14.2% สาเหตุหลักมาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของแอปฯ ทั้งเกมและแอปฯ อื่น ๆ ซึ่งแอปฯเกมยังคงเป็นที่นิยมสูงสุด เนื่องจากผู้คนใช้สมาร์ทโฟนมากกว่าเดิม แถมยังมีแนวโน้วใช้จ่ายภายในแอปฯ มากยิ่งขึ้น

ในปัจจุบัน ไม่ได้มีแค่แอปฯ เกมเท่านั้นที่ได้รับความนิยม แต่ยังมีแอปฯ ประเภทอื่น ๆ ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น แอปฯ ช็อปปิ้งออนไลน์ สุขภาพ ฟิตเนส ดนตรี ความบันเทิง และเครือข่ายสังคม โดยเฉพาะแอปฯ ด้านความบันเทิงและดนตรีที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัด นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแบรนด์ในการใช้กลยุทธ์ Gamification เพื่อสื่อสารแบรนด์ สินค้า หรือบริการ ซึ่งเป็นการนำองค์ประกอบของเกมมาใช้ดึงดูดความสนใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า เช่น การสะสมคะแนนหรือรางวัล และโฆษณาเชิงโต้ตอบ

การโฆษณาบนแอปฯ มือถือช่วยให้กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้นและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ซึ่งแพลตฟอร์มอย่าง POKKT นำเสนอโฆษณาหลากหลายรูปแบบ เช่น โฆษณาพรีเมียม โฆษณาเชิงโต้ตอบ และวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจ ซึ่งช่วยให้แคมเปญโฆษณามีประสิทธิภาพ ชูสินค้า บริการ และแบรนด์ได้อย่างโดดเด่นบนตำแหน่งที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มทั้งการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ รวมทั้งมีแนวโน้วแปลงเป็ผลลัพธ์เป็นยอดขายได้อย่างดีเยี่ยม

POKKT แพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือชั้นนำจาก AnyMind Group รองรับแบรนด์ระดับโลกมากมายในหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย POKKT จึงมีความโดดเด่นทั้งในด้านการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์และการตลาดเชิงผลลัพธ์ ทั้งในแอปฯ เกมและแอป ฯ ที่ไม่ใช่เกม

POKKT ให้การสนับสนุนแบรนด์ในด้านไหนบ้าง?

ทีมงาน POKKT นำเสนอชุดเครื่องมือและบริการที่ครบครันเพื่อช่วยให้แบรนด์บรรลุเป้าหมายการตลาดบนมือถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่า POKKT ให้สนับสนุนแบรนด์ในด้านไหนบ้าง

รูปแบบโฆษณา

POKKT นำเสนอรูปแบบโฆษณาที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายทางการตลาดที่แตกต่างกัน ดังนี้

   

โฆษณาวิดีโอแบบให้รางวัล (Rewarded Video Ads): ดึงดูดผู้ใช้งานด้วยการมอบรางวัลเมื่อรับชมโฆษณา ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและการรักษาผู้ชมไว้

โฆษณาแบนเนอร์แบบเต็มจอ (Interstitial Ad Banner): เป็นโฆษณาที่ปรากฏขึ้นเต็มหน้าจอในระหว่างการเปลี่ยนเนื้อหาหรือในช่วงเวลาที่ผู้ใช้หยุดทำกิจกรรมบนแอปฯ หรือเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้มีโอกาสเห็นโฆษณาอย่างเต็มที่ก่อนกลับไปยังเนื้อหาหลัก

   

โฆษณาริชมีเดียแบบเชิงโต้ตอบ (Rich Media Interactive Ads): เป็นรูปแบบโฆษณาที่สร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งพวกเขาสามารถมีส่วนร่วมหรือตอบโต้กับโฆษณาได้

 

POKKT เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและแม่นยำ

POKKT ใช้แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล (Data Management Platform หรือ DMP) ขั้นสูงในการรวบรวมและแบ่งกลุ่มข้อมูล โดยสร้างกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงตามความสนใจ เช่น การช็อปปิ้ง ความงาม สุขภาพ ฟิตเนส และอื่น ๆ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำนี้ช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารผ่านโฆษณาได้ถึงกลุ่มผู้ชมที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ

POKKT เข้าถึงสื่อโฆษณาระดับพรีเมียม

POKKT ให้การเข้าถึงสื่อโฆษณาคุณภาพสูงในแอปฯ เกมและแอปฯ มือถือ ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในตำแหน่งหรือสื่อกลางที่มีคุณภาพและการเข้าชมสูง เพิ่มความโดดเด่นและการมีส่วนร่วมของโฆษณานั่นเอง

POKKT เหมาะกับแคมเปญโฆษณาที่มุ่งเน้นผลลัพธ์

ด้วยบริการของ POKKT แบรนด์สามารถเลือกประเภทแคมเปญและรูปแบบการซื้อโฆษณาที่หลากหลายเพื่อตอบสนองเป้าหมายของธุรกิจ

1) ประเภทแคมเปญ: Programmatic และ Managed Service

2) รูปแบบการซื้อโฆษณา:

  • CPV (Cost Per View): ค่าใช้จ่ายที่แบรนด์ต้องจ่ายเมื่อผู้ใช้งานดูวิดีโอโฆษณาจนจบ โดยคำนวณจากจำนวนการเข้าชม ซึ่งช่วยให้แบรนด์จ่ายตามผลลัพธ์ที่ได้รับจริง
  • Cost Per Completed View: ค่าใช้จ่ายที่แบรนด์ต้องจ่ายเมื่อผู้ใช้งานดูวิดีโอโฆษณาจนจบ โดยคำนวณจากจำนวนการเข้าชม ซึ่งช่วยให้แบรนด์จ่ายตามผลลัพธ์ที่ได้รับจริง
  • Cost Per Completed View: ค่าใช้จ่ายที่แบรนด์ต้องจ่ายสำหรับการที่ผู้ใช้งานดูวิดีโอโฆษณาจนจบทั้งหมด โดยคำนวณจากจำนวนการเข้าชม ซึ่งเป็นการชำระเงินตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้ดูวิดีโอจนถึงจุดสิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอสั้นหรือยาว
  • Cost Per Thousand Impressions: ค่าใช้จ่ายที่แบรนด์ต้องจ่ายสำหรับการแสดงผลโฆษณาหนึ่งพันครั้ง โดยค่าบริการนี้คำนวณจากจำนวนการแสดงผลของโฆษณา ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถประเมินค่าใช้จ่ายตามการเข้าถึงโฆษณาในตลาดที่กว้างขึ้น
  • Cost Per Click: ค่าใช้จ่ายที่แบรนด์ต้องจ่ายสำหรับแต่ละครั้งที่ผู้ใช้คลิกที่โฆษณา โดยคิดจากจำนวนคลิกที่เกิดขึ้น ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถวัดผลประสิทธิภาพของการโฆษณาตามการกระทำที่ชัดเจนจากผู้ใช้
  • Cost Per Install:เป็นค่าใช้จ่ายที่แบรนด์ต้องจ่ายสำหรับการติดตั้งแอปพลิเคชั่นหนึ่งครั้ง ซึ่งคำนวณจากจำนวนการติดตั้งที่เกิดขึ้นจากแคมเปญโฆษณา โดยช่วยให้แบรนด์สามารถวัดผลของแคมเปญในด้านการเพิ่มจำนวนผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปฯ ของตน

หากเลือกประเภทแคมเปญและรูปแบบการซื้อที่เหมาะสม แบรนด์ก็จะสามารถปรับปรุงการใช้จ่ายในโฆษณาและบรรลุผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น

แพลตฟอร์มของ POKKT ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้แบรนด์บรรลุ KPI หลัก ๆ ดังนี้
  • Engagement Rate:วัดระดับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้กับโฆษณา
  • Video Completion Rate: ติดตามเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่ดูวิดีโอโฆษณาจนจบ
  • CTR (Click Through Rate):ตรวจสอบอัตราส่วนของผู้ใช้ที่คลิกโฆษณา
  • Viewability:รับรองว่าโฆษณาสามารถมองเห็นได้โดยกลุ่มเป้าหมาย
  • Dwell Time: วัดระยะเวลาในการที่ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับเนื้อหาโฆษณา
  • Number of Installations: ติดตามจำนวนการติดตั้งแอปฯ ที่ได้รับจากแคมเปญโฆษณา ซึ่งแสดงถึงความสามารถของโฆษณาในการแปลงการดู (View) เป็นการกระทำหรือการมีส่วนร่วมกับตัวโฆษณา (Actions or Interaction)
 

เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์

กลยุทธ์นี้กระตุ้นปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์และการตัดสินใจซื้อได้ดีเลยทีเดียว สามารถดึงดูดทั้งผู้เล่นเกมและผู้ที่ไม่เล่นเกม มีแนวโน้วที่จะทำให้พวกเขามีส่วนร่วม มีความสนใจ จดจำแบรนด์ และกลายมาเป็นลูกค้าในที่สุด

วิเคราะห์และรายงานผลลัพธ์อย่างครอบคลุม

POKKT นำเสนอเครื่องมือวิเคราะห์และรายงานที่ละเอียด โดยแสดงข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญ ซึ่งฐานข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้นักการตลาดหรือแบรนด์สามารถตัดสินใจได้อย่างสมเหตุสมผล พร้อมปรับกลยุทธ์ และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ของ POKKT

  • Ad Formats: รวมถึงโฆษณาวิดีโอแบบให้รางวัล โฆษณาแบนเนอร์แบบเต็มจอ และโฆษณาริชมีเดียแบบเชิงโต้ตอบ
  • Flexible Buying Models: มีรูปแบบการซื้อที่หลากหลาย เช่น CPCV, CPM, CPI, และ CPC เพื่อตอบสนองความต้องการการโฆษณาที่แตกต่างกัน
  • Audience Identification: ใช้แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล (DMP) ขั้นสูงในการแบ่งกลุ่มและกำหนดเป้าหมายกลุ่มผู้ชมอย่างแม่นยำ
 

ประโยชน์ของการทำการตลาดผ่านโฆษณาบนมือถือ

POKKT ได้รับการรับรองเป็น Google Certified Publishing Partner (GCPP) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายความว่า AnyMind Group สามารถให้บริการแพลตฟอร์มการเติบโตสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา (Publishers) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ผ่าน AnyManager ร่วมกับบริการและผลิตภัณฑ์ของ Google  
  • Enhanced Engagement: ดึงดูดผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านประสบการณ์โฆษณาที่น่าดึงดูด
  • Advanced Audience Targeting: ใช้ DMP เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ทำให้โฆษณาเข้าถึงผู้ใช้งานที่ตรงกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับสินค้าและบริการ
  • High-Impact Advertising: เพิ่มการรับรู้ การมีส่วนร่วม และดึงดูดผู้ใช้งานให้มาซื้อสินค้าหรือบริการ
 

ด้วย APM และ POKKT จาก AnyMind Group แบรนด์สามารถทำการตลาดดิจิทัลได้ทั้งในเว็บและแอปฯ มือถืออย่างมีประสิทธิภาพ APM ช่วยให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดด้วยสื่อโฆษณาที่มีคุณภาพสูง ขณะเดียวกัน POKKT เสนอรูปแบบโฆษณาที่น่าสนใจและการกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำบนแอปฯ มือถือ ทำให้แบรนด์มีการรับรู้และสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้น สองแพลตฟอร์มนี้ทำให้ AnyMind Group เป็นผู้นำในวงการโฆษณาดิจิทัล

สนใจโซลูชั่นการทำโฆษณาบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญได้ที่ AnyDigital

Latest News